มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า กับขุมพลังแบตเตอรี่ลิเทียม

การเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้น นอกจากดูที่ความเร็ว แรง และราคาแล้ว สิ่งสำคัญมากที่สุดแต่อาจจะเป็นเรื่องใหม่ที่หลายคนยังไม่รู้คือ ประเภทของแบตเตอรี่ ซึ่งถือเป็นขุมกำลังหลักของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เลือกซื้อแบตเตอรี่ลิเทียมต่างกับแบบตะกั่วอย่างไร ดีกว่าแค่ไหน แล้วแบตลิทียมมีกี่แบบ แบบไหนดีสุด มาดูกันเลย

แบตเตอรี่ลิเทียมคืออะไร?

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ใช้พลังงานจาก Rechargeable batteries ซึ่งมีทั้งการใช้แบตเตอรี่แบบตะกั่ว Lead Acid ซึ่งราคาไม่แพงแต่มีข้อจำกัดหลายประการ เช่น น้ำหนักมากและอายุการใช้งานไม่นานเท่าที่ควร กับ สมัยใหม่ที่นิยมเลือกใช้ แบตเตอรี่ลิเทียม Lithium battery ซึ่งใช้ลิเทียมเป็นวัสดุขั้วของแบตเตอรี่ เนื่องจากลิเทียมเป็นธาตุที่มีน้ำหนักน้อยและค่าศักย์ไฟฟ้ารีดักชันมาตรฐานที่ต่ำ เมื่อนำมาใช้เป็นวัสดุขั้วจะได้แบตเตอรี่ที่มีความจุพลังงานสูง

จุดเด่นของ Lithium battery ที่เหนือกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปตระกูลนิกเกิลและกรดตะกั่ว ดังนี้

1.มีประสิทธิภาพในการจุพลังงานไฟฟ้าและมีกำลังไฟฟ้าที่สูง เป็นต้นกำเนิดของขุมพลังงานที่มีความเสถียรที่สุดถือเป็นหนึ่งในพลังงานทางเลือกที่จะเข้ามาแทนที่พลังงานเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. อัตราการสูญเสียประจุระหว่างไม่ใช้งาน (Self-discharge rate) ต่ำ จึงเก็บประจุไฟฟ้าได้นาน (Low Discharge) กว่าแบตเตอรี่ตระกูลนิกเกิลและกรดตะกั่ว

3. มีอายุการใช้งานนานกว่า

4. มีความปลอดภัยค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ที่ใช้โลหะลิเทียมเป็นขั้วไฟฟ้า ไม่มีส่วนประกอบที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ เช่น ของเหลว กรด หรือตะกั่ว จึงสามารถรับประกันเรื่องของความปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้มากกว่าแบตเตอรี่แบบอื่น ๆ

แบตเตอรี่ลิเทียมแบบไหนดีที่สุด?

แบตเตอรี่ลิเทียมเองนั้น ก็ยังมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะเหมาะสมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานต่างกัน สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เมื่อทดสอบหลายๆด้าน ทั้งด้านกำลัง อายุการใช้งาน ความปลอดภัย และประสิทธิภาพโดยรวมแล้ว แบตเตอรี่ลิเทียม ไอออน ฟอสเฟต Lithium Iron Phosphate (LFP หรือ LiFePO4) และ Lithium Nickel Manganese Cobalt (NMC) ซึ่งแบตทั้ง2ชนิดจะมีจุดเด่นที่ให้กำลังสูง อายุการใช้งานยาวนาน และมีความปลอดภัยสูง ดังภาพเปรียบเทียบด้านล่าง จึงเป็นประเภทแบตเตอรี่ที่ทาง Star8 นำมาใช้กับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า JUNO และรุ่นอื่นๆของบริษัทนั่นเอง

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าบางรุ่นในท้องตลาดอาจใช้แบตเตอรี่ลิเทียม แต่เป็นลิเทียมไอออนหรือลิเทียมแมงกานีสประเภทอื่นที่ไม่ใช่ LiFePO4 และ NMC ซึ่งทางผู้บริโภคควรพิจารณาดูให้ดี เพราะประสิทธิภาพอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร และอายุการใช้งานสั้นกว่า ทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่เร็วขึ้น

ประเภทแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า JUNO 

Model	Battery	Max Speed Km/h	ระยะทาง* @35km/h	ราคาปกติ**	ผ่อน/ 24 เดือน***
Standard	60V20Ah Lead Acid	50 – 60	50 – 60  Km	42,900	2,212
Lithium-phosphate (LiFePO4)	60V20Ah (Portable) / 60V24Ah Lithium	50 – 60	50 – 60  Km	51,500	2,656
Turbo	72V30Ah Lithium	60 – 70	80 – 100 Km	59,500	3,070

*ขึ้นอยู่กับความเร็วเฉลี่ยและอายุแบตเตอรี่
**ราคามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังไม่รวมค่าจดทะเบียนพร้อมพรบ. (ซื้อสด มีโปรโมชั่น สอบถามเลย)
***ชำระรายเดือน สำหรับบัตรกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ เท่านั้น

สอบถามราคาคลิก Add LINE: @star8thailand    

สำหรับแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้น ทาง Star8 ได้พัฒนาให้ทั้งตัวแบตเตอรี่หลักที่อยู่ติดกับรถและแบตเตอรี่แบบพกพาได้ซึ่งสามารถยกไปชาร์จได้สะดวก 

สำหรับแบตเตอรี่แบบพกพา ทางบริษัทสามารถออกแบบให้สามารถเก็บไว้ใต้เบาะ หรือ เป็นแบบกระเป๋า มีล้อลาก น้ำหนักกำลังดี พกพาไปชาร์ตที่ไหนก็ได้ ตอบสนอง Life style ของคนที่อยู่คอนโดหรือหอพักที่หาปลั๊กสำหรับชาร์จไฟลำบาก ทำให้คุณหมดกังวลใจในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ให้ไปได้ไกลกว่าเดิม รายละเอียดคลิก แบตเตอรี่พกพา มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

ปัจจัยที่มีผลต่ออายุการใช้แบตเตอรี่ 

1.ระดับการคายประจุ (Depth of Discharge; DoD)  มีผลโดยตรงต่อจำนวนรอบการใช้งาน หากใช้งานแบตเตอรี่ (คายประจุ) ไปเล็กน้อย เช่น จากเต็ม 100% เหลือ 20% (เรียกว่า 80% DoD) แล้วอัดประจุกลับเข้าไปใหม่ จะพบว่าแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยืนยาวกว่าแบตเตอรี่ที่ใช้งานแบบคายประจุจนหมด (เรียกว่า 100% DoD) อยู่พอสมควร เช่น จากตัวอย่างข้อมูลจำนวนรอบจากผู้ผลิตเซลล์แบตเตอรี่รายหนึ่งด้านล่าง จำนวนรอบการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ 50% DoD และ ที่ 100% DoD นั้นต่างกันมากถึงหลายพันรอบเลยทีเดียว  ดังนั้นทาง Star8 แนะนำให้ผู้ใช้งานหมั่นชาร์จรถไฟฟ้าสม่ำเสมอ และไม่ควรใช้รถจนแบตเตอรี่เกือบหมดจึงชาร์จ เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

2.การที่แบตเตอรี่ลิเทียมมีอุณหภูมิภายในที่สูงจะทำให้เกิดการคายประจุเร็วกว่าอุณหภูมิปกติ ดังนั้น จึงไม่ควรเก็บและใช้งานแบตเตอรี่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเป็นประจำ ซึ่งทาง Star8 แนะนำให้ผู้ใช้งานควรจอดรถในร่ม แทนการจอดตากแดดเป็นเวลานานๆเป็นประจำ  และการขับขี่ในโหมดประหยัดพลังงาน หรือการจอดรถพักเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อต้องขับขี่ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงติดต่อกันนานๆ ก็จะสามารถช่วยลดอุณหภูมิและอัตราการคายประจุของแบตเตอรี่ได้เช่นกัน

การใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อความต้องการของคนในปัจจุบันเท่านั้น ทั้งยังช่วยลดมลพิษทางอากาศ และลดการใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากไม่มีการปลดปล่อยไอเสียออกจากมาสู่อากาศภายนอกอีกด้วย  และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ Star8 ก็มีอัตราเร่งที่ตอบสนองผู้ขับขี่อย่างทันใจ สามารถเร่งความเร็วได้ทันใจจากมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง โดยไม่ต้องรอรอบของเครื่องยนต์ใดๆ นั่นเอง 

สนใจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า มาทดลองขับได้เลยที่โชว์รูม Star8  (คลิกแผนที่) มาเลือกสีจริง หรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทั้งรุ่น Juno หรือ รุ่นอื่นๆ ชอบแบบไหนก็เลือกเป็นเจ้าของกันได้เลย มีของพร้อมส่งฟรีและมีบริการหลังการขายถึงบ้านทั่ว กทม. และปริมณฑล โทร 092-250-2424  

 

คลิก Add LINE: @star8thailand