
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ประหยัด คุ้มค่า ลดPM2.5
เปรียบเทียบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า กับมอเตอร์ไซค์ที่ใช้นำ้มัน 3 เรื่องหลัก ที่ดีจริง พร้อมตัวเลขชัดเจน เข้าใจง่าย
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ประหยัด คุ้มค่า ลดPM2.5
ใครที่ชอบหรือสนใจรถพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เราเข้าใจดีกว่า เป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่และหลายคนก็กำลังจะตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันแรก กำลังพิจารณาอยู่ว่าคุ้มหรือไม่ ประหยัดแค่ไหน ดีกว่าอย่างไร ช่วยสิ่งแวดล้อมได้แค่ไหนในยุค PM 2.5 ถล่มไทยแบบนี้
วันนี้จึงขอเปรียบเทียบ มอเตอร์ไซค์น้ำมัน กับ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ให้เห็นกันชัดๆ ไปเลย 3 เรื่อง ทั้ง ค่าน้ำมัน (รวมค่าเปลี่ยนแบตฯ) ค่ารถ และ ค่า CO2 คาร์บอนไดออกไซด์
1. เปรียบเทียบค่าน้ำมัน กับค่าไฟในการชาร์จมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
โดยยกตัวอย่างเปรียบเทียบการใช้งาน 5 ปี เดินทาง ไป-กลับ ที่ทำงาน ทุกวัน ห่างจากบ้าน 25 กม. รวม ไป-กลับ 50 กม. และในส่วนของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เรารวมค่าเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ใหม่สิ้นปีที่ 4-5 ให้อีกด้วย
มอเตอร์ไซค์น้ำมัน ค่าน้ำมัน 5 ปี | มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ค่าไฟฟ้า 5 ปี รวมแบตเตอร์รี่ใหม่ด้วย |
0.8 บาท/กม. | 5 บาท/ชาร์จ วิ่งได้ 50 กม. = 0.1 บาท/กม. |
40 บาท/วัน | 5 บาท/วัน |
1,200 บาท/เดือน | 150 บาท/เดือน |
14,400 บาท/ปี | 1,800 บาท/ปี |
ค่าน้ำมัน 5 ปี 72,000 บาท | ค่าไฟฟ้า 5 ปี 9,000 บาท |
เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง แบตเตอรี่ ระบบโซ่ขับ 5 ปี 3,000 บาท |
เปลี่ยนแบตเตอร์รี่ 13,000 บาท (อยู่ได้ 4-5 ปี) |
75,000 บาท | 9,000 + 13,000 = 22,000 บาท |
หมายเหตุ: ตัวเลขอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามลักษณะการใช้งานจริงทั้งในส่วนของมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันและมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยยังไม่รวมค่าเปลี่ยนอะไหล่สึกหรอตามการใช้งาน เช่น ยาง และเบรก
การเปลี่ยนแบตเตอรี่ของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอ้างอิงกับราคาแบตเตอรี่แบบ JUNO Lithium ที่พกพา ถอดไปชาร์จได้
ว้าวจะเห็นได้ว่าแค่ค่าน้ำมันอย่างเดียวเปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็ประหยัดกว่าได้มากถึง 53,000 บาทในตลอดระยะเวลา 5 ปี ราคานี้รวมการเปลี่ยนแบตแล้วด้วย เงินจำนวนขนาดนี้ก็สามารถซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันใหม่อีกคันยังเหลือเลย
ถ้ามองกันยาวๆไม่ใช่แค่ความรู้สึกก็จะทำให้ทราบได้ว่าการใช้รถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า เรื่องค่าใช้จ่ายนั้นหายห่วงได้เลย ประหยัดได้มากกว่า 3 เท่าทีเดียว
นอกจากนี้มอเตอร์ไซค์แบบที่ใช้น้ำมันยังไม่รวมค่าแรงในการซ่อมบำรุง เปลี่ยนหัวเทียน ทำความสะอาดเครื่องยนต์ น้ำมันล่อลื่นของ ที่จะมีค่าการดูแล และยังเสียเวลาและค่าเดินทางไปศูนย์บริการอีกด้วยนะ
ทิป: สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าการหมั่นชาร์จอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ปล่อยให้แบตเตอรี่ถูกใช้จนหมดเกลี้ยงบ่อยๆ จะเป็นการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ด้วยนะ
2. เปรียบเทียบค่ารถมอเตอร์ไซค์น้ำมัน กับค่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
-
- เรามาดูที่ราคามอเตอร์ไซค์น้ำมันยอดนิยมในท้องตลาด ซึ่งเน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก จะเห็นว่าราคารถน้ำมันในกลุ่มนี้นั้น จะอยู่ระหว่าง 46,000 – 60,000 บาทในขณะที่รถยนต์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าปัจจุบันก็มีราคาที่จับต้องได้ เช่น
– JUNO แบตตะกั่ว เริ่มต้นเพียง 42,900 บาท
– JUNO แบตลิเธียม เริ่มต้น 47,900 บาท – 58,500 บาท ( รุ่น Turbo)
อ้างอิงจาก JUNO ณ กพ. 2563
เรียกได้ว่าราคาไม่ต่างกันมากนักแล้วและปัจจุบันมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า JUNO ก็สามารถที่จะทำการดาวน์และผ่อนได้เป็นรายเดือนเช่นเดียวกัน คลิก ผ่อนมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Juno รุ่นนี้ก็สามารถที่จะจดทะเบียนได้มี พรบ. ได้ด้วย ออกถนนใหญ่ได้สบาย
3. เปรียบเทียบค่า CO2 คาร์บอนไดออกไซด์ของมอเตอร์ไซค์น้ำมันกับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ที่จริงแล้วเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในยุคนี้ เพราะปัจจุบัน PM 2.5 ส่งผลกระทบทั้งตัวคนขับเองและโดยรวมในประเทศไทย มลพิษทางอากาศทางอากาศนี้คงไม่หายไปได้ง่ายๆถ้าทุกคนไม่ร่วมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการเลือกใช้รถยนต์รถมอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้า
ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หน่วยเป็นกรัม ต่อผู้โดยสารหนึ่งคนในระยะทางหนึ่งกิโลเมตรที่เดินทางไปด้วยวิธีการต่างๆ
– รถมอเตอร์ไซค์มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 72 กรัมต่อกิโลเมตร
– หากขับดังตัวอย่าง วันละ 50 กิโลเมตรเป็นระยะเวลา 5 ปี รวมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึง 6,480,000 กรัม สูงมากๆที่เดียว
– ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่มีท่อไอเสียจึงไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเลยไม่ว่าจะขับนานเท่าไหร่ (แถมยังไม่มีปัญหาขาต้องโดนท่อไอเสียร้อนๆอีกด้วยนะ)
การคำนวณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใช้วิธีการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อผู้โดยสารหนึ่งคนในการเดินทางหนึ่งกิโลเมตร
แหล่งที่มีของข้อมูล: ตัวเลขค่าประมาณการเหล่านี้ตั้งอยู่บนฐานข้อมูล TRACC 2013 และตัวชี้วัด TERM 027
เก็บความจาก European Environment Agency
http://www.thaicyclingclub.org/บทความ/บทความทั่วไป/2017/02/23/carbon-dioxide-emissions-from-passenger-transport/
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวการจัดเก็บภาษีรถจักรยานยนต์ใหม่ตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย
สำหรับอัตราการจัดเก็บภาษีรถจักรยานยนต์ใหม่ตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาดว่าจะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
– กลุ่มรถจักรยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 50 กรัมต่อกิโลเมตร จะเสียภาษี 3%
– กลุ่มที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 50-100 กรัมต่อกิโลเมตร จะเสียภาษี 5%
– กลุ่มที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 100-130 กรัมต่อกิโลเมตร จะเสียภาษี 9%
– กลุ่มที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 130 กรัมต่อกิโลเมตรขึ้นไป เสีย 18%
ข่าวการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ตามค่าการปล่อยมลพิษคงต้องติดตามกันต่อไป
ขอบคุณ Source Cr.: ข่าวสด และ www.thansettakij.com
การเปรียบเทียบนี้คงทำให้หลายท่านได้เห็นภาพชัดเจนแล้วว่าทั้งเรื่องของค่าไฟฟ้าที่ประหยัดกว่า ราคาของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ถูกลงมา และแบตที่ทนนานขึ้น รวมถึงการไม่สร้างมลพิษให้กับตัวเองและสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวจึงทำให้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเหมาะที่จะเป็นรถคันถัดไปของคุณ
สนใจมาทดลองขับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า JUNO ได้เลยที่โชว์รูม Star8 (คลิกแผนที่) มาเลือกสีจริง มีรถพร้อมส่งและมีบริการหลังการขายถึงบ้านทั่ว กทม. และปริมณฑล โทร 092-250-2424 LINE@star8thailand Facebook: https://www.facebook.com/Star8Thailand/
* ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามราคาตลาดโลกที่เปลี่ยนไป โทรติดต่อสอบถามราคาล่าสุดที่บริษัทฯ : 092-250-2424